คนไทยจำนวนไม่น้อยที่อยากเสริมจมูก เพราะมีปัญหาเรื่องจมูกสั้น เนื้อน้อย ซึ่งหลายคนก็พอจะทราบมาแล้วบ้างว่าการเสริมจมูกด้วยซิลิโคนนั้น สำคัญกรณีจมูกสั้น มักสร้างปัญหาน่าปวดหัวตามมาอีกมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องจมูกทะลุ เพราะฉะนั้นจะทำจมูกอย่างไรดีล่ะสำหรับปัญหานี้ บทความนี้มีคำตอบครับ
อย่าลืมรับชมภาพเคสรีวิวได้ดีที่ >>> รวมภาพรีวิวเคสปกป้องคลินิก
ดูอย่างไรว่าจมูกสั้น เนื้อน้อย
สำหรับบางคนแล้ว เห็นมาแต่ไกลก็คงพอจะรู้เลยว่าคงจะมีปัญหานี้แน่นอน โดยไม่ต้องพึ่งหมอในการตรวจ แต่สำหรับบางคนอาจจะไม่ได้สังเกตุได้ง่ายขนาดนั้น เพราะฉะนั้นผมของจำแนกทำว่าจมูกสั้น เนื้อน้อยนี้ออกเป็น 3 คำแล้วกันนะครับ
1. จมูกสั้น
การที่เราจะรู้ว่าจมูกเราสั้นหรือไม่นั้น เราก็ควรจะต้องทำการเปรียบเทียบความยาวของจมูกของเรากับสัดส่วนอื่นของใบหน้า โดยง่ายที่สุดก็คือแบ่งหน้าออกเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนบน ส่วนกลาง และส่วนล่าง
คือจากรูปเมื่อเราแบ่งเป็น 3 ส่วนแล้ว แต่ละส่วนควรจะมีความยาวพอๆกัน พูดอีกอย่างก็คือ จมูกควรมีความยาวไม่น้อยไปกว่าส่วนอื่น หรือควรยาวมากกว่าส่วนอื่น จากในรูปผู้หญิงคนนี้เมื่อวัดคราวๆแล้วก็มีความยาวของจมูกไม่ได้สั้นไปกว่าส่วนอื่นของใบหน้า ก็แปลว่าจมูกไม่สั้นนั่นเอง
แต่เราจะสังเกตุเห็นว่า เส้นที่ลากอยู่ระหว่างปากกับจมูกนั้นเราลากอยู่ที่จุดฐานของจมูก ไม่ได้วัดที่ปลายจมูกดังนั้นถ้าใครที่ปลายจมูกดูเหินหรือเชิ่ดจนเกินไปก็ทำให้จมูกดูสั้นได้เช่นกัน จึงนำมาสู่หัวข้อที่ 2
2. จมูกเหิน จมูดเชิ่ด
เมื่อเราทำการวัดตามข้อที่ 1 แล้ว ผลปรากฎว่า ทำไมวัดแล้ว ผลออกมาว่าจมูกไม่สั้นแต่ ทำไมจมูกยังดูสั้นอยู่ เหตุผลก็เพราะจมูกบางคนดูเหินเกินไปนั่นเอง ยิ่งถ้าเหิน เชิ่ดด้วยร่วมกับวัดแล้วสั้นด้วยอีกยิ่งทำให้สั้นกันไปใหญ่
ถ้าดูง่ายๆก็จะดูได้จากเวลาหน้าตรงถ้าเห็นรูจมูกชัด นั่นก็แปลว่าจมูกเราดูเหิน เชิ่ดเกินไป
หรือถ้าจะพูดตามทฤษฎี ก็ตามรูปเลยครับ ในการที่เราจะดูว่าจมูกเราเชิ่ดหรือไม่นั้น ก็ต้องมาดูว่าองศาที่ปลายจมูกกับปากเราเป็นเช่นไร องศาที่เหมาะสมสำหรับผู้หญิงไทย ก็อยู่ที่ประมาณ 90-105 องศา ส่วนผู้ชายก็ควรจะอยู่ที่ประมาณ 90 องศา ถ้าองศากว้างกว่าที่ว่านี้ก็แปลว่า จมูกเชิ่ดเกินไปนั่นเอง ซึ่งทุกคนสามารถเข้าไปอ่านเรื่ององศาต่างๆนี้ได้ในหัวข้อ ทรงจมูก ทรงไหนสวยรับกับใบหน้า ได้เพิ่มเติมเลย
3. เนื้อน้อย
คำว่าเนื้อน้อยนั้น อาจจะเป็นคำศัพท์ในวงการทำจมูกซักนิดนึง ถ้าใครไม่เก็ท เข้าใจง่ายๆก็คือ ผิวหนังบาง หรือ เวลาจับจมูกดึงขึ้นมาแล้ว ผิวหนังดูยืดขึ้นได้น้อยนั่นเอง
ทำไมจมูกถึงสั้นกันล่ะ
1. สั้นตามธรรมชาติ อย่างที่รู้เลยครับ คนไทยเรานี่ดั้งแหมบ กันอยู่แล้วครับ ยิ่งคนแถบภาคอีสานนี่ ชัดเลยครับ ยิ่งการที่ไม่มีดั้ง มันก็สัมพันธ์กับการที่ปลายจมูกสั้นกันโดยปริยาย
2. สั้นจากแผลเป็นดึงรั้ง คงมีบางคนบอกว่าเสริมๆจมูกไปก่อน แล้วอีกปีสองปีค่อยมาเปลี่ยนแกนใหม่ เนื้อจะยืดได้มากขึ้นทำครั้งต่อไปจะได้โด่งขึ้น เคยได้ยินกันมั่งใช่มั้ยคับ แต่นี่คือการทำจมูกครับ ไม่ใช่ การซื้อรองเท้าหนัง ใส่ไปแล้วหนังจะยืดตามเท้า ต้องอย่าลืมว่ายิ่งทำยิ่งเป็นแผลเป็นภายใน หรือพังผืด ซึ่งก็จะยิ่งทำให้ความยืดหยุ่นของผิวหนังลดลงตามไปด้วย บางกรณีพังผืดก็มากเสียจนดึงรั้งให้จมูกสั้นลงไปเช่นกัน
เสริมจมูกด้วยซิลิโคนทั้งแท่งกับเคสจมูกสั้น เนื้อน้อย
เป็นคำถามที่พบบ่อยที่สุด ว่าจะเสริมซิลิโคนอย่างเดียวให้จมูกยาวขึ้นเลยได้มั้ย
คำตอบคือ ไม่ได้เลยครับ
เราไม่สามารถที่จะใช้ซิลิโคนที่ยาวเกินจมูกของเราใส่เข้าไปได้ครับ เพราะแน่นอนครับทะลุแน่นอนในอนาคตอันใกล้
จุดที่มีลูกศรชี้คือจุดที่ผิวหนังบางที่สุดของจมูก และเป็นจุดเดียวกันกับ จุดที่ต้องการจะเพิ่มความยาวของจมูก ถ้าซิลิโคนตึงบริเวณนั้นก็แปลว่าทะลุครับ
เพราะฉะนั้นเค้าถึงมีการใช้กระดูกอ่อนหู หรือ เนื้อเยื่อเทียมยังไงล่ะครับ คือแทนที่จะใช้ซิลิโคนยาวไปสุดผิวหนังบริเวณนั้น เราก็ใช้ซิลิโคนยาวในระดับนึง ที่เหลือก็ใช้เป็นกระดูกอ่อนแทนหรือ เนื้อเยื่อเทียมแทน
แต่ก็อีกแหละครับ การจะใช้กระดูกอ่อนก็จะใช้ได้ในระดับนึง ใส่ไปหลายๆชั้น ก็ทะลุอยู่ดีครับ เพราะกระดูกอ่อนเรานั่นค่อนข้างที่จะแข็ง และ ขอบกระดูกอ่อนก็ค่อนข้างคม ก็มันจะพบปัญหาเรื่องเห็นขอบกระดูกอ่อนกันอีก
สรุปในวิธีการเสริมซิลิโคนโดยทำแบบปิดนั้น ถามว่าทำได้มั้ย ก็ทำได้ครับ แต่!!! ความยาวที่ได้ก็จะเพิ่มได้ไม่มาก อีกทั้งไม่สามารถจะทำโดยใช้ซิลิโคนอย่างเดียวได้ ต้องใช้เทคนิคอื่นร่วมด้วย
เสริมจมูกโอเพ่นด้วยกับเคสจมูกสั้น เนื้อน้อย
ในเคสจมูกสั้น เนื้อน้อยนั้นการเสริมจมูกที่เหมาะสมและเรียกว่า gold standard ในการเสริมจมูกในเคสลักษณะนี้ คงหนีไม่พ้นการเสริมจมูกด้วยวิธีโอเพ่น
คำว่าการเสริมจมูกโอเพ่นนี้ ไม่ใช่ชื่อเทคนิคการเสริมจมูกแต่อย่างใด แต่เป็นชื่อเทคนิคการลงแผลเปิด คือมีแผลเปิดตรงกลางของจมูกให้สามารถเห็นโครงสร้างภายในได้ง่ายขึ้น ถ้าใครสงสัยอ่านเพิ่มเติมได้ที่ ==> แผลผ่าตัดการเสริมจมูกเป็นอย่างไร
ที่นี่ถ้าโอเพ่นเป็นเพียงเทคนิคการลงแผลผ่าตัดแล้ว เราจะใช้เทคนิคอะไรล่ะ ในการทำในเคสจมูกสั้น เนื้อน้อยแบบนี้?
Septal extension graft (SEG) หรือชื่อที่คุ้นหูมากกว่านี้ คือ การยืดผนังกั้นจมูก ผนังกั้นจมูกเป็นกระดูกอ่อนที่แบ่งรูจมูกเราออกเป็นสองข้าง และเป็นตัวที่ทำให้เกิดเป็นโครงสร้างจมูกเราขึ้นมา การที่จมูกเราจะสั้นหรือยาว หรือ มีฮั๊มพ์ หรือไม่มีนั้น ตัวผนังกั้นจมูกมีบทบาทสำคัญในการกำหนดโครงสร้างเหล่านี้
ในคนจมูกสั้นผนังกั้นจมูกส่วนใหญ่มักจะสั้นร่วมด้วย เราจะเห็นในรูปด้านบนทั้งสามรูปคือการทำ SEG คือเห็นว่ามีไหมที่เป็นสีดำๆเย็บอยู่ ก็คือเค้าเอาตัว SEG มาเย็บยืดต่อไปกับผนังกั้นจมูกเดิม ซึ่งก็จะทำให้ได้จมูกที่ยาวมากขึ้น เป็นการปรับโครงสร้างที่ปลายจมูกเราเอง โดยที่ไม่ได้ใช้ซิลิโคนซึ่งก็จะไม่ทำให้ทะลุนั่นเอง แล้วอะไรที่จะเอามาทำ SEG ได้บ้างละ
1. กระดูกอ่อนซี่โครง หมอหลายท่านยกให้กระดูกอ่อนซี่โครงเป็นอะไรที่ดีสุดในการทำ SEG เลยก็ว่าได้ กระดูกอ่อนซี่โครงก็สามารถได้มาจากตัวเราเอง หรือจากของคนอื่นแต่เอามาฉายรังสี ก็ได้
2. จากผนังกั้นจมูกส่วนใน ถ้าย้อนขึ้นไปดูรูปด้านบนเราจะเห็นว่ารูปกลางและรูปขวาต่างจากรูปซ้ายตรงที่ มันมีส่วนโบ๋ๆที่เป็นสี่เหลี่ยมอยู่ นั่นแหละครับ เค้าตัดผนังกั้นจมูกส่วนในออกไปเพื่อไปต่อส่วนปลายให้ยาวขึ้นนั่นเอง
3. กระดูกอ่อนหู
จากเหตุผลที่กล่าวมาทั้งหมดการเสริมจมูกโอเพ่นโดยใช้เทคนิคการยืดผนังกั้นจมูกจึงดูเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหาจมูกสั้น เนื้อน้อย
เย็บอินเตอร์โดมกับจมูกสั้น เนื้อน้อย
เป็นอีกวิธีที่ผมแนะนำคนไข้ผมอยู่เสมอ และพยายามให้ผลักดันอยู่ตลอด การเย็บอินเตอร์โดมที่ผมพูดถึงนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การเย็บง่ายๆแบบที่บางคนอาจจะเข้าใจ (ซึ่งผมเขียนเรื่องนี้ในบทความเรื่อง เย็บอินเตอร์โดมคืออะไร มีข้อดีอย่างไร ไว้อย่างละเอียด) ผมกล่าวรวมไปถึงการปรับโครงสร้างของปลายจมูกต่างๆ
ต้องยอมรับว่าการเสริมแบบโอเพ่นนั้นดีที่สุดจริงๆสำหรับเคสจมูกสั้นเนื้อน้อย แต่เนื่องด้วยปัจจัยหลายๆอย่างของโอเพ่น เช่น ราคา แผลเป็น หรือ การขาดเลือดที่ผิวหนังส่วนปลาย ล้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงของการทำโอเพ่น สามารถอ่านการเปรียบเทียบระหว่าง เสริมจมูกโอเพ่นvsแบบปิด ได้ที่ลิ้งค์เลยครับ
ตัวอย่างเคสจมูกสั้นเนื้อน้อย
เคสนี้เป็นเคสแก้จมูก จมูกดูสั้นและดูหนาก่อนแก้ และเห็นว่าสั้นจนปีกจมูกดูห้อยมาก หลังทำ จมูกดูยาวขึ้น ร่วมกับตัดปีกที่ห้อย ให้ดูห้อยน้อยลง
เคสนี้เป็นเคสแก้ โครงสร้างเดิมปลายจมูกเหิน สั้น เสริมมาครั้งแรกเสริมด้วยเทคนิค ซิลิโคนเพียวๆ จึงไม่สามารถทำให้ปลายดูยาว ได้มากขึ้น หลังแก้ ปลายจมูกดูยาวเรียวมากขึ้น
เคสนี้เป็นเคสทำจมูกครั้งแรก มาด้วยจมูกสั้นเหิน เนื้อน้อย หลังทำด้วยการยืดกระดูกอ่อนปลายจมูก จมูกดูยาวและเป็นทรงมากขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
สรุป
ไม่เราจะเลือกวิธีใดในการเสริมจมูก ซึ่งก็ต่างมีข้อดี ข้อเสีย การปรึกษากับแพทย์ผู้ทำการรักษาเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด พยายามเปิดใจในการพูดคุย อย่าเชื่อแต่เพื่อนบอกเพียงอย่างเดียวครับ อย่าคิดว่าเห็นเพื่อนทำเทคนิคแบบนี้ได้แล้วเราจะทำได้บ้าง คนเราแต่ละคนแตกต่างกันครับ
อยากสอบถามคุณหมอ เรื่องทำจมูกค่ะ