ปีกจมูกเป็น 1 ในปัญหาคาใจของหลายๆคน ในการทำจมูก จะตัดสินในตัดดีมั้ย ตัดแล้วจมูกจะดูเล็กลงมั้ย ตัดแล้วจมูกจะดูประหลาดมั้ย หรือจะฉีดโบท็อกดี หลายคนคงลังเล เพราะการตัดออกเป็นอะไรที่เรียกว่า point of no return ดังนั้นการเลือกที่จะตัดเป็นอะไรที่ต้องผ่านการตัดสินใจอย่างรอบคอบจริงๆ
อย่าลืมรับชมภาพเคสรีวิวได้ดีที่ >>> รวมภาพรีวิวเคสปกป้องคลินิก
ปัญหาปีกจมูกมีอะไรบ้าง
1. ปีกจมูกบาน ระยะระหว่างปีกจมูกทั้ง 2ข้าง มีระยะที่กว้างกว่า ระยะห่างระหว่างหัวตาสองข้าง
ดังรูปด้านล่าง
เราจะเห็นว่ามีอยู่คำหลักๆ คือ alar flare (เนื้อปีกกว้าง) กับ alar base width (ฐานกว้าง) สองคำนี้ไม่ได้ให้ความหมายที่เหมือนกันแต่อย่างใด ถ้าสังเกตุเห็นจากในรูป จะพบว่าฐานก็คือส่วนของปีกที่เป็นรอยต่อติดกับกับแก้ม ฐานที่กว้างมักจะเกิดจากรูจมูกที่กว้างด้วย แต่เนื้อปีกที่กว้างคือส่วนเนื้อที่เกินออกมาจากส่วนของฐาน นั่นแปลว่าปึกจมูกที่บานออกก็อาจจะมาได้จากทั้งเนื้อปีกหรือฐานนี้ได้เช่นกัน
แต่สิ่งที่ต้องรู้ไว้ก่อนเลยคือ เนื้อปีกกว้าง ไม่จำเป็นต้องฐานกว้าง คืออาจจะเป็นแต่เนื้อส่วนเกินมาก็เป็นได้ เช่นเดียวกันฐานกว้างก็ไม่จำเป็นต้องเนื้อปีกกว้างก็ได้ อาจจะเป็นแค่รูจมูกที่กว้างแต่เนื้อปีกไม่กว้างก็เป็นได้ และนอกจากนี้คนเราอาจจะมีทั้งปัญหาเนื้อปีกและฐานกว้างร่วมกันก็เป็นได้อีกเช่นกัน
2. ปีกจมูกห้อย มักจะสังเกตุได้ง่ายๆเวลาถ่ายรูปด้านข้าง ปีกจมูกห้อยลงมาคลุมจนไม่เห็นรูจมูก ทำให้จมูกดูสั้น และดูตันๆ
3. ปีกจมูกหนา เนื้อหรือผิวหนังค่อนข้างหนา หรือ อาจจะเป็นเพราะกระดูกอ่อนบริเวณปลายจมูกกว้าง ซึ่งวิธีการรักษาอาจจะไม่ใช่ เพียงแต่การตัดปีกจมูกเพียงอย่างเดียว ซึ่งเป็นปัญหาที่แก้ได้ยากที่สุดใน 3 แบบที่กล่าวมา
วิธีการรักษาก็ขึ้นกับปัญหาของปีกจมูกแต่ละแบบ ถามโบท็อกช่วงได้มั้ย? คำตอบก็คือช่วยได้ในกรณีปีกจมูกบาน โดยเฉพาะคนที่ปีกจมูกบานเวลาหัวเราะหรือยิ้ม โบท็อกจะช่วยให้กล้ามเนื้อบริเวณปีกจมูกละโดยรอบปีกจมูกทำงานได้น้อยลง ทำให้เวลาเราแสดงสีหน้า ปีกจมูกก็จะบานออกน้อยลง
วิธีการผ่าตัดปีกจมูก
การผ่าตัดก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าปัญหาของปีกจมูกนั้นเป็นในลักษณะ วิธีการผ่าตัดก็จะล้อไปกับปัญหาเหล่านั้น
1. ปีกจมูกบาน ถ้ามีรูจมูกกว้างร่วมด้วย การผ่าตัดมักจะตัดเข้าไปในรูจมูกเพื่อเย็บให้ รูจมูกแคบลง
เราจะเห็นจากในรูปด้านซ้ายเป็นการผ่าตัดเพื่อแก้ไข ฐานจมูกกว้าง และรูจมูกกว้าง เพียงอย่างเดียว
จากรูปด้านขวาเป็นการผ่าตัดซึ่งแก้ทั้งฐานจมูกกว้าง ร่วมกับเนื้อปีกจมูกกว้างร่วมด้วย จะเห็นได้ว่าเป็นการผ่าตัดที่แผลยาวกว่าแบบซ้าย คือเป็นการผ่าตัดซึ่งลงแผลตัดที่ลงแผลต่อมาจากแบบซ้าย เพื่อลดทั้งรูจมูกและเนื้อปีกจมูกที่กว้างร่วมด้วย
อีกแบบ แบบสุดท้ายไม่ได้โชว์ในรูป คือลงแผลผ่าตัดเพียงแค่แก้ปัญหาเนื้อปีกจมูกกว้างเพียงอย่างเดียวนั่นเอง ก็คือมีแผลผ่าตัดที่เป็นแบบขวาแต่ไม่ได้ลงแผลแบบซ้ายร่วมด้วย
จะเห็นว่าคนไข้รายนี้มีความกว้างของปีกจมูกที่กว้างกว่าหัวตาทั้งทั้งสองข้าง และมีปัญหาเนื้อส่วนเกินจากฐานจมูกด้วย อีกทั้ง ยังมีปัญหาเรื่องรูจมูกที่กว้าง ซึ่งใช้วิธีตัดเนื้อปีกที่กว้างออกร่วมกับตัดส่วนรูจมูกที่กว้างออก ก็จะเห็นได้ว่าความบานของปีกจมูกลดลงและปีกจมูกดูแคบลง
เคสนี้เป็นเคสตัดปีกจมูกร่วมกับการเสริมจมูก จะเห็นว่าหลังทำไป ปีกจมูกดูกางออกน้อยลง รูจมูกเรียวมากขึ้น ปลายจมูกเป็นสามเหลี่ยมสวยงามมากขึ้น
2. ปีกจมูกห้อย ในกรณีการผ่าตัดสามารถทำภายในรูจมูกได้ เรียกว่า sail excision ซึ่งจะไม่มีแผลเป็นภายนอกให้เห็น
หลังการผ่าตัดทันที ก็จะพบว่ามีแผลผ่าตัดอยู่ภายในรูจมูก โดยมีไร้แผลภายนอก และทำให้ความห้อยของปีกจมูกลดลง ปีกจมูกถูกยกขึ้นมาได้ (รูปบนมีการตัดทั้งในรูจมูก และนอกรูจมูกด้วย)
3. ปีกจมูกหนา ปัญหานี้มักจะเป็นปัญหาที่ต้องพิจารณาในแต่ละบุคคลไป ว่าเกิดจากปีกจมูกเอง หรือ เกิดจากกระดูกอ่อนปลายจมูกที่หนา หรือ เกิดจากผิวหนังที่หนา ซึ่งการตัดปีกไปโดยที่ไม่คำนึงถึงปัญหาต่างๆ เหลานี้มักจะทำให้เกิดปัญหาให้รูปจมูกไม่ได้เล็กลง แถมยังทำให้จมูกดูแปลกประหลาด และแก้ไขซ่อมแซมได้ยากเพิ่มขึ้นอีกต่างหาก
สรุปเรื่องปีกจมูก
อย่างที่กล่าวไปแล้วข้างต้นว่าการตัดปีกจมูกนั้นเป็นเรื่องที่ซับซ้อนอยู่พอสมควร จากทั้งเทคนิคการผ่าตัดและรวมไปถึงผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นหลังจากตัดปีก เช่นแผลเป็น รูจมูกตีบ รูจมูกไม่เท่ากัน ดังนั้นก่อนการผ่าตัด ควรประเมิน พูดคุยถึงความคาดหวัง เทคนิคที่ใช้และผลลัพธ์กับแพทย์ผู้ทำการรักษาให้ดีเสียก่อน เพื่อที่จะไม่ได้เสียใจภายหลังนะครับ
Comments